แนวทางและประสบการณ์การสอบครูผู้ช่วยโดยนายพลวัต สุริรัมย์ ศิษย์เก่ารุ่นที่ 6

ประสบการณ์การสอบครูผู้ช่วย สพฐ ปี 66 ครับ
สอบครั้งเดียว ครั้งแรก แล้วได้บรรจุเลย แบบ งงๆ 😆
อาจเป็นแนวทางหรือเป็นประโยชน์กับผู้อื่นที่สนใจได้ไม่มากก็น้อย 💙
สอบได้ลำดับที่ 15 เอกสังคมศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 2 บรรจุเป็นข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนวัดกิ่งแก้ว (เทวะพัฒนาคาร)
ขออนุญาตเล่าย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนเข้าปี 1 ใหม่ๆ ในตอนนั้นมีโครงการครูคืนถิ่นที่สอบผ่านแล้วหลังเรียนจบจะได้เรียกเข้าบรรจุเป็นข้าราชการครูในท้องถิ่นของตนเอง ผมเห็นพี่ๆหลายคนหลายรุ่นสมัครสอบกัน ผมกับเพื่อนๆก็ได้มาปรึกษากันว่าจะสมัครสอบดีไหม ความคิดเห็นส่วนตัวผมก็อยากสมัครสอบแต่ติดที่เดียวคือ ต้องสอบผ่านภาษาอังกฤษซึ่งเป็นคู่ปรับกับผมมาตลอดหลายปีที่เรียนมา ไม่ได้มีอคติอะไรกับวิชานี้นะครับ แค่ไม่ถนัดเฉยๆ ครับผม จึงตัดสินใจไม่สอบ ซึ่งพอใกล้เรียนจบให้เพื่อนๆหลายคนเข้าใกล้ความฝันในการบรรจุจากโครงการนี้ถึงทำให้เรามานึกเสียดายโอกาสในครั้งนั้นที่เราไม่ได้คว้ามันเอาไว้
แต่ในเมื่อเสียโอกาสครั้งแรกไปแล้ว เราก็ไม่มีมีเวลาไปนั่งเสียดายมันอีก แต่เราต้องมาสร้างโอกาสครั้งใหม่ให้กับตัวเราเอง เริ่มจากการเรียน ผมใช้เทคนิคนี้มาโดยตลอดไม่รู้ว่าคนอื่นใช้ได้ผลแบบผมไหม ผมจะพยายามฟังตอนที่อาจารย์สอนให้เข้าใจหรือถ้าสงสัยก็จะสอบถามอาจารย์ในชั่วโมงเรียนหรือหลังเรียนเสร็จ เมื่อผมเข้าใจแล้วการทำงานส่งหรือทำข้อสอบก็ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกบรรทัดทุกตัวอักษรเพื่อทำความเข้าใจในเนื้อหานั้นซ้ำอีก เพียงแค่อ่านที่หัวข้อและใจความหลักของเนื้อหาก็สามารถเข้าใจเนื้อหานั้นได้แล้ว ถ้าเข้าใจในเนื้อหาจริงๆแล้ว เราสามารถนำไปต่อยอดได้อีกหลายทาง
จนกระทั่งเรียนจบในช่วงเดือน มีนาคม 2565 ในตอนนั้นการสอบครูผู้ช่วยของปี 2565 ได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปี จึงทำให้ผมไม่ได้สอบในปีนั้นไป หลังจากเรียบจบผมก็กลับไปอยู่ที่บ้าน ใช้เวลาอ่านหนังสือทบทวนความรู้ แต่การกลับไปอยู่ที่บ้านมันทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาขึ้นคือ ขี้เกียจ เพื่อไม่ให้มันเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาผมจึงตัดสินใจหางานทำ โดยเลือกที่จะมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับที่ผมเองจบมา จึงเลือกที่จะเป็นครูอัตราจ้าง ได้ทั้งทำงาน ได้เก็บประสบการณ์ ได้ทบทวนความรู้ตนเองไปในตัวและได้เงินมาไว้ใช้อีกด้วย
ระหว่างทำงานผมก็เริ่มหาหนังสือมาอ่าน เริ่มติดตามเพจติวต่างๆ ดูข่าวสารต่างๆอยู่อย่างสม่ำเสมอ หาข้อมูลเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการสอบ เวลาว่างจากการทำงานก็จะติวทบทวนความรู้ โดยเริ่มจากวิชาที่สอบก่อน แล้วค่อยไปเก็บวิชาที่ยากๆ ถ้ารู้สึกง่วงจะพักสายตาทันทีสัก 10-20 นาที แล้วค่อยติวต่อ ถ้าฝืนอ่านต่อแบบง่วงๆ ผลลับที่ได้จะเท่ากับ 0 ทันที เลือกเวลาอ่านให้เหมาะกับตนเอง ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบการอ่านเองสักเท่าไหร่ ส่วนมากจะเปิดคลิปติวในกลุ่มหรือในYoutube ให้วิทยากรอธิบายให้ฟัง ต้องขอขอบคุณสายรหัสที่ส่งคลิปติวของสถาบันต่างๆและหนังสือให้กับผมใช้ในการติวหนังสือ ขอบคุณพี่ๆที่คอยให้คำแนะนำ จะให้แนะนำว่าสถาบันนั้นดีกว่าสถาบันนี้ หนังสือเล่มนี้ดีกว่าหนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ได้เพราะมันขึ้นอยู่กับความถูกใจของแต่ละบุคคล (สไตล์ของคนเรามันต่างกัน) ในร้านหนังสือในยูทูปมีเยอะแยะเลยครับ 555 เลือกเอาที่เราชอบ ฟังแล้วเข้าใจอ่านแล้วเข้าใจ ไม่ทำให้เรางงไปมากกว่าเดิม และควรเลือกดูสถาบันใดสถาบันใดสถาบันหนึ่งเท่านั้น ถ้าดูหลายสถาบันอาจทำให่เราสับสนกับเนื้อหาได้ ถ้าได้สถาบันหรือหนังสือที่ใช่แล้วต่อไปก็ลุยเลยครับ จะชนะหรือแพ้ก็อยู่ที่ตัวเราแล้วล่ะครับ
จัดการเวลาในการติวได้ก็ต้องหาเวลาให้ตัวเองพักผ่อนด้วยทั้งทำงานทั้งติวแน่นอนครับว่ามันต้องเหนื่อยกว่าปกติอยู่แล้วเพราะฉะนั้นจึงต้องหาเวลาพักบ้าง ให้เวลาพักกับร่างกาย กับสมอง เดินเที่ยวเดินเล่นหาของกินอร่อยๆ ถ้าท้อ หรือหมดแรงใจให้นึกถึงครอบครัวคนที่เรารัก และคนที่อยู่เบื้องหลัง คนที่คอยสนับสนุนเรามา เติมพลังใจให้เราสู้ต่อ
นอกจากการเตรียวตัวอ่านหนังสือแล้ว เราเป็นคนไทยต้องมีเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน (ความเชื่อส่วนบุคคล) สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมเคยไปขอพรและบนบานศาลกล่าวก็มีด้วยกันหลายที่ แต่หลักๆก็จะมีประมาณนี้
1. พระเจ้าใหญ่ วัดหงษ์ อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์
2. ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา
3. พระพุทธศาสนสิกขมงคล (หลวงพ่อใหญ่) พระพุทธรูปประจำสาชาวิชาพุทธศาสนศึกษา
4. องค์เทวราชเนรมิต วัดเทวราชกุญชร (และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด)
5. สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
6. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้ไปท่องเที่ยวและทำบูญเน้นขอไม่เน้นบน
#ผมมีลูกเล่นนิดหน่อยในการขอคือตอนสุดท้ายจะบอกว่า ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรจุเป็นข้าราชการครูภายใน…ปีหลังจากเรียนจบ ในส่วนของผมนั้นผมขอ 2 ปีหลังจากเรียนจบ ซึ่งก็ได้บรรจุจริงๆก่อนครบ 2 ปี เพียง 1 เดือนเท่านั้นเอง 555
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าทุกคนที่มีเป้าหมายคือการบรรจุเป็นข้าราชการครูว่าปลายทางนั้นอาจจะเหมือนกันแต่เส้นทางที่จะไปหาเป้าหมายนั้นคนที่เลือกคือคุณเอง บางคนอาจไปถึงแบบเส้นตรง บางคนอาจเจอทางคดเคี้ยว บางคนอาจเจอทางที่มันเรียบ บางคนอาจเจอทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แต่เมื่อคุณเลืกเส้นทางนั้นแล้ว คุณต้องสู้มันอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง เต็มความสามารถที่คุณมีอยู่ แล้วสักวันมันจะเป้นวันแห่งความสำเร็จของคุณ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ของผมหวังว่าคุณจะได้รับสิ่งที่ดีๆกลับไป
ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับว่าที่คุณครูในอนาคตที่กำลังอ่านประสบการณ์นี้ ขอให้คุณโชคดีกับเส้นทางที่คุณเลือก
พลวัต
21/12/66