แนวทางและประสบการณ์การสอบครูผู้ช่วยโดยนางสาวรัตนาวลี วิชาจารย์ ศิษย์เก่ารุ่นที่ 5
ขออนุญาตรีวิวการสอบบรรจุครูผู้ช่วย สพฐ.ปี 64 ค่าาา
สอบครั้งแรกและครั้งเดียวพอเพื่อเป็นแนวทางหรือเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจได้ไม่มากก็น้อย
สอบได้ลำดับที่ 4 สังคมศึกษา กศจ.เพชรบูรณ์ 
สอบได้ลำดับที่ 4 สังคมศึกษา กศจ.เพชรบูรณ์ ปัจจุบันบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนเพชรละครวิทยา
ก่อนเราจะประสบความสำเร็จเราก็เคยผิดหวังมาก่อน การสอบครั้งนี้จึงมีความกดดันอยู่มาก เพราะเคยสอบครูคืนถิ่นตอนปี 3 ไม่ผ่าน(ตอนนั้นเสียใจ เสียหลักไปพักนึง เพราะคิดว่าตัวเองเตรียมตัวไปดีแต่สุดท้ายก็ยังไม่ดีพอ) เมื่ออกหักจากครูคืนถิ่น เลยตั้งเป้าหมายให้ตัวเองใหม่ คือ “ต้องสอบบรรจุรอบทั่วไปให้ติด”
จบการศึกษา 16 มีนาคม 2564หลังจากนั้นเราเริ่มหาหนังสือ ติดตามเพจติวฟรีต่างๆ ดูรีวิวความสำเร็จของพี่ๆหลายๆคนเพื่อหาแรงฮึดให้ตัวเอง หาข้อมูลเนื้อหาที่ใช้ออกข้อสอบของปีก่อนหน้ามาดู รู้แล้วว่ามีวิชาอะไรบ้าง ก็เขียนตาราง กางกระดาษ เราเริ่มจาก
ภาค ก เก็บวิชาที่ยากกกกกกก่อน นั่นคือ
คณิต(แถมอังกฤษ) เลือกที่จะไม่อ่านเอง เลยสมัครคอร์ส 3 อ ของครูหมัด เพจ ติวสอบ By ครูหมัด คุ้มค่ามาก(ราคาหลักร้อย) มีติวอังกฤษจากครูใบตาลให้ด้วย สอนจากยากเป็นง่าย มีเทคนิควิธีทำ วิธีจำ หัวเราะเกือบทั้งไลฟ์ แฮปปี้มาก
ภาษาไทยเน้นทบทวนความรู้เดิม ฝึกทำข้อสอบ เพจ ติวภาษาไทยเต็ม 100 : Teacher Bell
วิชาข้าราชการที่ดี เนื้อหากฏหมายค่อนข้างเยอะ ไม่อยากอ่านเอง เป็นงง เลยหาตัวช่วย เพจ Likeสาระ สมัครติว(ราคาหลักร้อย)ของอาจารย์ปราโมทย์ ดีมาก ดีสุด สอนเข้าใจง่าย มีสรุปmind map อธิบายภาพรวมก่อนแล้วค่อยเจาะแต่ละเรื่อง ทำให้เห็นที่มาที่ไป ซึ่งส่วนตัวชอบจำเป็นภาพมากกว่าข้อความอยู่แล้ว
ในส่วน ภาค ข นั่นนนนนนน เริ่มเก็บจาก
วิชาเอก เราอ่านหนังสือสรุปสังคม มัธยมปลายของติวเตอร์พอยท์ อ่านเองแล้วไม่ค่อยเข้าใจเพราะเนื้อหาเยอะมาก เลยสมัครติวกับครูเป้ เพจ สังคมศึกษา ครูเป้ ดีมาก มีทั้งกลอนทั้งเพลงให้จำ ตอบโจทย์เรามาก
วิชาการศึกษา เน้นทบทวนหนังสือที่เคยเรียนวิชาของคณะมา ติวเพิ่มจากกลุ่มของอาจารย์ปราโมทย์
กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ติว เน้นฝึกทำข้อสอบจากกลุ่มอาจารย์ปราโมทย์อีกเช่นเคย (คุ้มค่ามาก ราคาหลักร้อย)
สิ่งสำคัญที่สุดคือ
รู้จักตัวเองให้มากๆ ตัวเองถนัดหรืออ่อนอะไร อ่านเข้าใจได้ในช่วงเวลาไหน แบ่งเวลาให้เป็น ทำตารางอ่านหนังสือ หาเวลาให้ร่างกาย สมอง ได้พักผ่อนบ้าง เมื่อไหร่ที่ท้อ หมดแรงใจ ให้นึกถึงหน้าครอบครัว คนที่เรารักไว้เยอะๆ เติมกำลังใจกลับมาสู้ต่อ
รู้จักตัวเองให้มากๆ ตัวเองถนัดหรืออ่อนอะไร อ่านเข้าใจได้ในช่วงเวลาไหน แบ่งเวลาให้เป็น ทำตารางอ่านหนังสือ หาเวลาให้ร่างกาย สมอง ได้พักผ่อนบ้าง เมื่อไหร่ที่ท้อ หมดแรงใจ ให้นึกถึงหน้าครอบครัว คนที่เรารักไว้เยอะๆ เติมกำลังใจกลับมาสู้ต่อ
ท้ายที่สุดแล้ว อยากจะบอกว่าทุกคนมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ขอให้เต็มที่ เต็มกำลังกับทางที่เลือกเดิน สักวันต้องเป็นวันของเรา
แหล่งที่มาของข้อมูลคลิ๊กที่นี้
